ดูแลสิ่งที่สำคัญ



 วิธีดูแลฟันให้แข็งแรงอยู่เสมอ

รอยยิ้มที่สดใสของเรา มาจากการมีสุขภาพฟันที่ดี ดังนั้นคนเราจึงต้องดูแลฟันให้ดี เพราะกระบวนการบดเคี้ยวอาหารของเรา ต้องพึ่งพาฟันชุดนี้ไปตลอดชีวิต วันนี้มี 5 วิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยให้สุขภาพฟันแข็งแรงอยู่เสมอ

1. แปรงฟันทุกครั้งหลังทานอาหาร

สาเหตุหนึ่งของฟันผุ เกิดจากเศษอาหารเข้าไปติดค้างในซอกฟัน ดังนั้นการแปรงฟันทุกครั้งหลังทานอาหารจะช่วยลดปัจจัยการเกิดฟันผุได้ ต้องแปรงทั้งด้านนอก และด้านในให้ถูกวิธี รวมถึงการใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วยในกรณีที่ขนแปรงสีฟันเข้าไปไม่ถึง

2. ใช้แปรงสีฟันที่ขนแปรงไม่แข็งเกินไป

แปรงสีฟันที่ดี ขนแปรงต้องไม่แข็งจนเกินไป เพราะถ้าเราใช้ไปนาน ๆ อาจจะเกิดการบาดเจ็บในช่องปาก ซึ่งจะมีผลกระทบต่อฟันของเรา เช่น โรคเหงือก ทำให้รากฟันของเราเป็นโรคและเกิดการติดเชื้อ ถ้าไม่เลือกแปรงสีฟันที่เหมาะสมคุณอาจจะสูญเสียฟันไปได้

3. ไม่กัดแทะของแข็ง

การทานอาหารของเราในทุก ๆ มื้อนั้นทำให้ฟันเกิดการกัดกร่อนอยู่แล้ว และหากคุณยังใช้ฟันกัดแทะของแข็งร่วมด้วยนั้นจะทำให้การกัดกร่อนของฟันเร็วยิ่งขึ้น เพราะการที่ของแข็งกระทบกับฟัน จะทำให้สารเคลือบฟันเกิดการเสียหาย และยังอาจทำให้เกิดอาการเสียวฟันตามมาอีกด้วย

4. ไม่ใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันที่ไม่น่าเชื่อถือ
ทุกวันนี้หากเราเข้าไปในอินเทอร์เน็ตหรือร้านค้าออนไลน์ต่าง ๆ เราจะพบว่ามีผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันอยู่จำนวนมาก ซึ่งไม่ควรที่จะเชื่อคำโฆษณามากเกินไป เพราะมีผู้ใช้บางราย เกิดอาการฟันผุกร่อนจากการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ หากคุณต้องการที่จะฟอกฟันขาว แนะนำให้ปรึกษากับทันตแพทย์คือทางเลือกที่ดีที่สุด

5. พบทันตแพทย์ทุกๆ 6 เดือน
การไปพบทันตแพทย์ในทุก ๆ 6 เดือนนั้น เป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำ เพราะทันตแพทย์จะได้ทำการประเมินสุขภาพฟัน รวมถึงขูดหินปูน และตรวจดูว่ามีฟันซี่ไหนที่ผุหรือไม่ ถ้ามีจะได้ทำการรักษาอย่างทันท่วงที เพื่อที่จะไม่ให้เราสูญเสียฟันไปอย่างน่าเสียดาย 
ส่วนใดของฟันที่ผุได้ง่ายที่สุด
อาการฟันผุมักเกิดใน 3 ตำแหน่งดังนี้

1. อาการฟันผุบริเวณพื้นเคลือบฟันที่ใช้ในการบดเคี้ยว เพราะคราบแบคทีเรียซึ่งมักติดอยู่ตามร่องฟัน มักพบบ่อยในเด็กเนื่องจากการละเลยการแปรงฟันในบริเวณนี้

2. อาการฟันผุระหว่างซอกฟัน เพราะเป็นบริเวณที่ยากต่อการเข้าถึง ซึ่งไม่สามารถทำความสะอาดได้ด้วยการแปรงฟันเพียงอย่างเดียว

3. อาการฟันผุที่บริเวณรากฟัน เกิดขึ้นจากภาวะเหงือกร่น หรือการสูญเสียของกระดูกฟันอันมีสาเหตุอันสืบเนื่องมากจากโรคเหงือก หรือโรคปริทันต์อักเสบ

การป้องกันฟันผุ ที่ให้ผลดีที่สุด คือ

รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารหวานเหนียวติดฟันที่ทำให้เกิดโรคฟันผุ
ดูแลรักษาความสะอาดช่องปากให้สะอาดอย่างทั่วถึง สม่ำเสมอ โดยแปรงฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ทุกครั้ง
ตรวจสุขภาพช่องปากด้วยตนเองเป็นประจำ
ใช้ฟลูออไรด์เสริมเพื่อการป้องกันฟันผุ

ในเรื่องของอาหาร และสุขภาพช่องปาก เป็นเรื่องที่สัมพันธ์กัน เพราะการผ่านอาหารเข้าสู่ร่างกาย อันดับแรก คือ ผ่านจากช่องปาก และเป็นการย่อยอาหารในชั้นแรกๆ ด้วย หากการย่อยเป็นไปอย่างไม่สมบูรณ์ ย่อมเกิดผลเสียต่อร่างกายแน่นอน

ฟันจัดได้ว่าเป็นอวัยวะ ที่แข็งแกร่งที่สุดของร่างกาย แต่ก็ยังเกิดการผุกร่อน เสื่อมไปตามสภาพได้ เพราะการกินอาหารไม่ถูกต้อง ไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี เมื่อฟันซึ่งเป็นส่วนที่แข็งแรง แต่ก็ยังเสื่อมโทรม ส่วนต่างๆ ของร่างกายที่อ่อนแอกว่า ก็จะต้องเสื่อมโทรมไปได้ด้วยเช่นกัน การที่ฟันเสีย หรือเหงือกบวมนั้น ต้องใช้เวลานานกว่าจะแสดงอาการ แต่ถ้าเรากินอาหารให้ถูกต้อง และดูแลฟันให้ดี ตั้งแต่เริ่มแรก และเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ เราก็ไม่ต้องเสียเวลาทำฟัน รักษาฟัน รักษาเหงือกที่แสนจะแพง

สิ่งที่จะมาเสริมสร้างความแข็งแรงของฟันได้ นอกจากจะต้องดูแลรักษาให้ถูกต้องแล้ว ยังจะต้องรู้จักการกินอาหารอีกด้วย สารอาหารประเภทแคลเซียมและฟอสฟอรัส รวมทั้งวิตามินด้วย ทั้งหมดนี้จะเป็นตัวประกอบให้ฟันเราแข็งแรง และถ้ากินอาหารที่ให้สารอาหารประเภทนี้ไม่พอ ฟันเราก็จะเสียง่าย

โดยปกติแล้ว ถ้าเรากินอาหารครบ 5 หมู่ เราก็จะได้ฟอสฟอรัสเพียงพอ จากการกินอาหาร แต่ปัญหาอยู่ที่แคลเซียม ซึ่งอาหารส่วนใหญ่ ไม่ได้มีแคลเซียมเสมอไป ร่างกายเราจึงมักขาด โดยเฉพาะเด็กนั้นต้องการมากเป็น 2 เท่าของผู้ใหญ่

อาหารที่มีแคลเซียมมาก ก็คือ น้ำนม เนยแข็ง รองลงมาก็ได้แก่ ผักประเภทกะหล่ำดอก มะเขือเทศ ฟักทอง ผักโขม ตำลึง ใบมะกรูด ใบกระเพาขาว ใบแค ใบบัวบก ใบยอ ใบชะพลู ใบแมงลัก ผักกาดขาว ไข่แดง ปลา ปลาตัวเล็กที่กินได้ทั้งกระดูก กุ้งแห้ง อาหารที่พอจะมีแคลเซียมอยู่บ้างก็เช่น สับปะรด เชอร์รี่ องุ่นแห้ง เห็ด กล้วย ถั่วฝักยาว ถั่วเมล็ดแห้ง งา ปลาร้า

ทันตแพทย์หรือหมอฟัน มักพูดเสมอว่า การรักษาโรคฟันนั้น รักษาง่ายกว่าโรคเหงือก เพราะเหงือกเป็นอวัยวะที่ละเอียดอ่อน มีหน้าที่หุ้มรากฟัน การที่เหงือกจะสวยไม่คล้ำหรือซีด อาหารแต่ละวันควรกินผลไม้สด ผักสด ซึ่งหากินได้ไม่ยากในบ้านเรา เช่น ส้มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นส้มเขียวหวาน ส้มเช้ง ส้มจุก ส้มโอ ประเภทอื่นก็เช่น มะนาว มะเขือเทศ มะละกอ ฝรั่ง สับปะรด กระหล่ำปลี แต่วิตามินซีจะถูกทำลายได้ง่าย และจะสูญเสียไป เมื่อปรุงเป็นอาหาร หรือแม้แต่การหั่นซอย และการทิ้งไว้ให้เหี่ยว มันก็จะสูญไปอย่างรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องเลือกกินอาหารที่สดใหม่ ถ้าซอยหรือหั่นแล้วแช่น้ำ วิตามินซีก็จะสูญสลายไปด้วย

เราควรเริ่มดูแลฟัน และเหงือกเสียแต่วันนี้ เพราะเราต้องใช้ฟันขบเคี้ยวอาหารตลอดเวลา หากฟันและเหงือก ไม่สมบูรณ์แข็งแรง เราอาจจะต้องเสียค่ารักษา ที่แพงมากกว่าอาหารแต่ละมื้อ และทุกข์ทรมานด้วย

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

รักษาสุขภาพ

หอมหวานสดชื่น