ควรรู้
ไขความลับ! ประโยชน์น่ารู้จาก ‘ปลาทูน่า’
พาทุกคนซอกแซกให้ครบทุกซอก ทุกมุม ทุกคุณประโยชน์จาก ‘ปลาทูน่า’ สุดยอดปลาทะเลน้ำลึกรสชาติดีที่ใครๆ ก็รัก! ต้องบอกก่อนว่าตำแหน่ง King of Fish ของปลาทูน่านั้นไม่ได้มาเล่นๆ จัดหนักจัดเต็มไปด้วยสารอาหารสำคัญอย่างโปรตีนสูงปรี๊ด กรดไขมันโอเมก้า-3 วิตามินบี โพแทสเซียม สารต้านอนุมูลอิสระและอื่นๆ อีกมากมาย รับรองว่ากินดี ร่างกายดี ผิวดี ช่วยได้สารพัดจะ ทั้งบำรุงหัวใจ บำรุงเลือด บำรุงสายตา บำรุงผิวพรรณ เพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย ให้พลังงาน และช่วยลดน้ำหนักได้ด้วย แถมด้วยอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์เอาใจคนรักสุขภาพ ต้อง ทูน่านอติลุส ไลท์ ตัวเลือกใหม่ที่มีสารอาหารครบเครื่องเหมือนเดิม เพิ่มเติม Low Sodium มาไขความลับของคุณประโยชน์มากมายที่ร่างกายเราได้รับแน่ๆ แค่มื้ออาหารนี้ มีปลาทูน่า!
ทำไมต้อง Low Sodium?
สำหรับโซเดียมที่ว่านี้ คือ เกลือแร่ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ ต้องกินและกินเข้าไปเท่านั้น! โดยเจ้าโซเดียมมีหน้าที่ช่วยควบคุมสมดุลของน้ำนอกเซลล์ ในระบบหมุนเวียนเลือด ช่วยนำกรดอะมิโนและสารอื่นๆ ไปยังเซลล์ต่างๆ และควบคุมสมดุลของกรด-ด่างในร่างกาย ซึ่งในแต่ละวันร่างกายของมนุษย์ต้องการโซเดียมเพียงแค่ 2,000 มิลลิกรัม คิดเป็นเกลือป่น 1 ช้อนชา (6 กรัม) เท่านั้น! และด้วยความที่โซเดียมเป็นเกลือแร่ที่ซ่อนตัวอยู่อาหารแทบทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ นม ไข่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เครื่องปรุง เบเกอรี่ ไม่เว้นแม้แต่ธัญพืช และผักผลไม้ ทำให้แต่ละวันคนไทยมีแนวโน้มในการบริโภคโซเดียมเกินความจำเป็น เฉลี่ยประมาณ 2 เท่าจากปริมาณโซเดียมที่ร่างกายต้องการ ซึ่งการเก็บเล็กผสมน้อยของปริมาณโซเดียมที่เกินมานี้ ส่งผลให้โรคอื่นๆ ตามมาเพียบ ทั้งเบาหวาน ความดัน หัวใจ สมองเสื่อม ประสาทรับรู้รสชาติของลิ้นลดลง และการบวมน้ำ ซึ่งเป็นที่มาของการคุมอาหารเท่าไหร่ ออกกำลังกายแค่ไหน ขึ้นตาชั่งทีไรน้ำหนักก็ไม่ลดสักที!
เอาล่ะ ปูพื้นฐานความรู้กันสมควรแล้ว ได้เวลาไปเจาะลึกกันแล้วว่า เมื่อปลาทูน่า x Low Sodium คุณประโยชน์ที่ได้จะทวีคูณมากแค่ไหนกัน ไปดูกัน!
ดีต่อใจ-ความดันโลหิต-หลอดเลือด
อย่างที่รู้กันว่าปลาทูน่าอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 โพแทสเซียม และธาตุเหล็ก ซึ่งมีส่วนช่วยในการสร้างความสมดุลให้หลอดเลือด ลดคอเลสเตอรอลในหลอดเลือดแดง และบำรุงเลือด เมื่อเรากินทูน่าเข้าไป คราวนี้หัวใจก็จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกายได้อย่างเต็มที่
ส่วนโซเดียมนั้น ถ้าได้รับมากเกินไปจะมีผลให้ความยืดหยุ่นของเส้นเลือดเลี้ยงหัวใจแข็งตัว หัวใจก็จะทำงานหนัก ความดันโลหิตพุ่งสูง และอาจเกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆ ตามมา เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต และโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ ใครที่กำลังเผชิญปัญหาสุขภาพ หรืออยากดูแลตัวเองให้ห่างไกลโรคเหล่านี้ ลองควบคุมอาหาร และค่อยๆ ลดปริมาณโซเดียมดูสิ รับรองว่าปัญหาการแข็งตัวของหลอดเลือด และระบบหมุนเวียนเลือดดีขึ้นแน่นอน
ดีต่อไต
เจ้าอวัยวะรูปทรงเม็ดถั่ว ขนาดเท่ากำปั้นที่เราเรียกกันว่า ‘ไต’ นี้เป็นอวัยวะสำคัญที่มีอยู่ในร่างกายเพียง 2 ข้างเท่านั้น ถึงแม้ว่าไตข้างหนึ่งเสียไป อีกข้างทำหน้าที่แทนกันได้ แต่เราก็ไม่ควรละเลยที่จะดูแลรักษาไว้ให้ดี ‘ไต’ ทำหน้าที่กรอกของเสียออกจากร่างกาย ดูดซึมเก็บสารอาหารสำคัญเอาไว้ รักษาสมดุลน้ำและเกลือแร่เอาไว้ เมื่อไหร่ก็ตามที่เราบริโภคโซเดียมเข้าไปในปริมาณมากเกินความจำเป็น เมื่อนั้นไตของเราก็ต้องทำงานอย่างหนัก หากไตทำงานหนักขึ้นเรื่อยๆ ทำงานหนักเป็นประจำ ไตก็จะเสื่อมเร็วขึ้น ซึ่งอาจนำมาสู่ภาวะไตเสื่อม โรคไต และอาจพ่วงไปยังโรครวมมิตรอื่นๆ ตามมา ดังนั้นหนทางหนึ่งที่จะช่วยลดภาระการทำงานของไต คือ การควบคุมอาหาร ไม่บริโภคโซเดียมเกินปริมาณที่ร่างกายต้องการ อาหารที่มีโซเดียมต่ำ หรือ Low Sodium ช่วยได้!
ทูน่า หรือ ปลาโอเป็นปลาทะเลในเผ่า Thunnini ซึ่งเป็นกลุ่มย่อยของวงศ์ปลาอินทรี (แมคเคอเรล) Thunnini ประกอบด้วย 15 สปีชีส์ใน 5 สกุล โดยแต่ละชนิดมีขนาดและความยาวแตกต่างกันมาก ตั้งแต่ ปลาทูน่าหัวกระสุน (ความยาวสูงสุด 50 ซม., น้ำหนัก 1.8 กก.) จนถึง ปลาทูน่าครีบน้ำเงินแอตแลนติก (ความยาวสูงสุด 4.6 ม., น้ำหนัก 684 กก.) ครีบน้ำเงินแอตแลนติกมีความยาวเฉลี่ย 2 เมตร และเชื่อกันว่ามีอายุยืนยาวถึง 50 ปี ทูน่าจัดเป็นปลาเศรษฐกิจที่มีความสำคัญ เพราะเนื้อของปลาทูน่ามีสีชมพูหรือแดงเข้ม ต่างจากปลาทั่วไปที่มักจะมีเนื้อสีขาว โดยนิยมนำมาทำเป็นปลากระป๋อง หรือปรุงสดต่าง ๆ เช่น ซาซิมิ
ปลาทูน่า มีลักษณะรวม คือ อาศัยอยู่เป็นฝูงในทะเลหรือมหาสมุทรห่างจากชายฝั่ง มีรูปร่างเพรียวคล้ายกระสวย บริเวณฐานครีบหูมีกลุ่มเกล็ดเล็ก ๆ ครีบหางเว้าลึกเป็นปลาที่ว่ายน้ำได้รวดเร็วว่องไวมาก
- วงศ์ Scombridae
- เผ่า Thunnini: ปลาทูน่า
- สกุล Allothunnus:
- สกุล Auxis:
- สกุล Euthynnus:
- สกุล Katsuwonus: ปลาทูน่าท้องแถบ
- สกุล Thunnus: ปลาอัลบาคอร์, ปลาทูน่าแท้
- สกุลย่อย Thunnus (Thunnus): กลุ่มปลาทูน่าครีบน้ำเงิน
- สกุลย่อย Thunnus (Neothunnus): กลุ่มปลาทูน่าครีบเหลือง
- เผ่า Thunnini: ปลาทูน่า
- วงศ์ Scombridae
ปลาทูน่า ชนิดที่ใหญ่ที่สุดในโลก คือ ปลาทูน่าครีบน้ำเงินเหนือ มีความยาวตั้งแต่ปลายหัวจรดหาง 458 เซนติเมตร น้ำหนัก 684 กิโลกรัม โดยปลาทูน่าจัดเป็นปลาที่ว่ายน้ำได้รวดเร็วมาก เพราะมีรูปร่างเหมือนตอร์ปิโด สามารถว่ายน้ำได้เร็ว 70-74 กิโลเมตร/ชั่วโมง เป็นรองเพียงปลากระโทงแทง ซึ่งเป็นปลาที่ว่ายน้ำได้เร็วที่สุดในโลกเท่านั้น

ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น